Affinity V2 มีอะไรใหม่ ทำไมสายกราฟิกควรเลือกใช้?
Affinity V2 หนึ่งโปรแกรมออกแบบที่ชาวกราฟิกเลือกใช้ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งงาน Photo, Designer และ Publisher และยังคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย เพราะนอกจากความครบครันแบบ 3 in 1 แล้ว ยังสามารถรองรับการใช้งานได้ทุกแอป ทุกแพลตฟอร์ม โดยหลังจากอัปเป็น Affinity V2 แล้วจะมีอะไรใหม่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กัน
Affinity V2 ชุดซอฟต์แวร์กราฟิกสุดครบครัน
Affinity V2 โปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาสำหรับผู้ทำงานออกแบบสร้างสรรค์โดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกใส่เข้าไปในโปรแกรมนี้ทำให้ซอฟต์แวร์มีกระบวนการทำงานคล่องตัวมากขึ้น คุณจึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไหลลื่น มีชีวิตชีวา ใช้เวลาการทำงานน้อยกว่าเดิม และด้วยแอปพลิเคชันที่สามารถทำงานได้ทั้งกับ iPad และ Desktop คุณจึงทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ไม่ได้นั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงาน
พบฟีเจอร์ใหม่ใน 3 ซอฟต์แวร์เด่นของ Affinity V2
1. Affinity Photo 2 ซอฟต์แวร์แก้ไขภาพแบบมืออาชีพ
สามารถแก้ไขภาพได้ง่ายๆ เทียบเท่าโปรแกรมชั้นนำ โดยมีการพัฒนาฟังก์ชันที่ทำงานกับไฟล์ RAW และความสามารถที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแก้ไขงานที่ง่ายขึ้น โดย Affinity Photo 2 นี้มาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้น ได้แก่
• LIVE MESH WARP เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงรูปภาพให้ตรงกับพื้นผิวของเทมเพลตที่อยู่ด้านหลังได้ และยังสามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ตลอดเวลา
• COMPOUND MASKS สามารถรวมเลเยอร์มาสก์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย และยังแก้ไข หรือย้อนกลับได้ตลอดเวลา
• LIVE MASKS สร้างเวิร์กโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถอัปเดตโดยอัตโนมัติตามคุณสมบัติของภาพพื้นฐาน
• NON-DESTRUCTIVE RAW DEVELOP สามารถแก้ไข หรือปรับแต่งไฟล์ RAW โดยที่ยังคงรักษาโครงสร้างของไฟล์ต้นฉบับไว้
2. Affinity Designer 2 ซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิกและภาพประกอบ
สามารถรองรับการนำเข้าไฟล์ AI การพิมพ์ PDF อย่างมืออาชีพ รวมถึงงานออกแบบกราฟิกทุกอย่างที่คุณต้องการ เพื่อผลิตงานศิลปะ การออกแบบแบรนด์ โลโก้ ไอคอน และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเวอร์ชัน 2 นี้ มาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆ คือ
• X-RAY VIEW โหมดมุมมองใหม่ที่จะแสดงองค์ประกอบงานของคุณโดยเฉพาะ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเลือกเป้าหมายของเส้นโค้ง หรือวัตถุภายในงานศิลปะที่ซับซ้อน
• SHAPE BUILDER TOOL เครื่องมือที่สามารถเพิ่มและลบรูปร่างได้ง่ายๆ โดยการลากผ่านระหว่างวัตถุทั้งสอง เพื่อรวมพื้นที่ของวัตถุเข้าด้วยกัน
• DXF / DWG IMPORT ช่วยให้คุณสามารถนำเข้าและแก้ไขไฟล์ AutoCAD และ DXF ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยที่ยังคงรักษาโครงสร้างและขนาดของไฟล์ต้นฉบับไว้
• KNIFE TOOL เป็นเครื่องมือสำหรับตัดรูปร่างเส้นโค้งหรือข้อความให้แยกออกจากกัน
• VECTOR WARP คุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของเวกเตอร์ได้อย่างอิสระ และยังสามารถแก้ไขหรือย้อนกลับได้ตลอดเวลาอีกด้วย
• MEASURE TOOL & AREA TOOL เครื่องมือสำหรับวัดความยาวเส้น ส่วน ระยะทาง และพื้นที่ของวัตถุ
3. Affinity Publisher 2 ซอฟต์แวร์จัดทำเอกสาร รายงาน วารสาร อย่างคล่องตัว
เพื่อการจัดทำเอกสาร รายงาน วารสาร ได้อย่างง่ายสามารถรองรับงานพิมพ์ หรืองานดิจิทัล นำเข้าไฟล์ IDML และเปลี่ยนทันทีระหว่าง Affinity Photo และ Designer ภายในแอปเพื่อกระบวนการแก้ไขที่สะดวกและง่าย โดยมีฟีเจอร์เด่น ดังนี้
• BOOKS เครื่องมือรวมเอกสาร Publisher ที่แยกจากกันเป็นบทๆ เพื่อสร้างสิ่งพิมพ์ขนาดยาวหนึ่งเล่ม สามารถซิงก์หมายเลขหน้า สารบัญ และสไตล์ ได้โดยอัตโนมัติ
• PLACEAUTO-FLOW สามารถสร้างเลย์เอาต์เดียวเพื่อรองรับรูปภาพทั้งหมดที่ต้องการ และถูกปรับขนาดให้เข้าตำแหน่งที่กำหนดได้โดยอัตโนมัติ
• STYLEPICKER TOOL สามารถคัดลอกสไตล์ของวัตถุหรือข้อความไปยังวัตถุอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว (เฉพาะเวอร์ชันเดสก์ท็อปเท่านั้น)
• LINKED FILE LAYER VISIBILITY OVERRIDE สามารถเปิดหรือปิดเลเยอร์ใดๆ จากภายในไฟล์ที่วางไว้ รวมถึงPSD, PDF, DWG, DXF และไฟล์ Affinity อื่นๆ ได้โดยสูญเสียความสมบูรณ์ของลิงก์แม้ว่าไฟล์ต้นฉบับจะเปลี่ยนไป การตั้งค่าการมองเห็นเลเยอร์ของคุณจะยังคงอยู่
ที่มา : ข้อมูลและภาพจาก app1009.com