วันนี้องค์กรคุณมีระบบป้องกันความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลแล้วหรือยัง?

หากวันหนึ่งข้อมูลภายในถูกคุกคาม คุณมีแผนรับมือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างไร?

โดยเฉพาะกับข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กร และข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าหรือคู่ค้า นอกจากจะสร้างความเสียหายให้องค์กรแล้ว นั่นยิ่งผลักดันให้คุณเสี่ยงกับการกระทำผิดกฎหมาย PDPA ไปด้วยอย่างไม่ตั้งตัว

ดังนั้นเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้อมูลภายใน ลดโอกาสเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล และความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชื่อเสียง พร้อมตอบโจทย์นโยบาย PDPA คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Dfastpass ขอแนะนำ DLP Solution เพื่อปกป้ององค์กรคุณจากความเสี่ยง และให้ความคุ้มกว่าถึง 5 ต่อ หากเลือกใช้วันนี้

ลงทุนวันนี้คุ้มกว่าถึง 5 ต่อ ด้วย DLP Solution ปกป้ององค์กรคุณจากภัยคุกคามข้อมูล

5 ความคุ้มค่าเมื่อเลือกใช้ DLP Solution

1. ข้อมูลภายในองค์กรได้รับการป้องกันการรั่วไหล

การทำงานของ DLP หรือ Data Loss Prevention จะสามารถวิเคราะห์และจัดประเภทความสำคัญของข้อมูลต่างๆ พร้อมควบคุมดูแลข้อมูลทั้งหมดให้อยู่ในความปลอดภัย ป้องกันการรั่วไหลทั้งจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม นอกจากนี้ DLP ยังสามารถพัฒนาระบบการป้องกันให้เข้ากับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ระบบการป้องกันที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กร

ด้วยความสามารถดังกล่าว จะทำให้ผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมของข้อมูลต่างๆ ที่ต้องได้รับการปกป้องดูแล และวางทิศทางการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลแต่ละส่วนได้

2. มีการตรวจจับป้องกันภัยคุกคามข้อมูล

DLP Solution ช่วยตรวจจับเหตุการณ์ที่ผู้เข้าถึงข้อมูลกำลังกระทำและอาจมีโอกาสทำให้ข้อมูลที่ได้รับการป้องกันนั้นเสี่ยงต่อการนำออกไปด้วยช่องทางต่างๆ เช่น e-mail, website หรือ USB 

รวมทั้งยังสามารถป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูล โดยหากมีการคัดลอก ลบ ส่งออก Print Printscreen หรือเปลี่ยนแปลงโดยผู้เข้าถึงนั้นไม่มีสิทธิ์ทำได้ ระบบจะมีการตรวจสอบและป้องกันการกระทำดังกล่าว พร้อมส่งรายงานแจ้งเตือนผู้ดูแลทันที

3. จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลป้องกันภัยจากคนภายใน

การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจากภัยคุกคามต่างๆ DLP ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของข้อมูลส่วนต่างๆ ได้ เช่น ข้อมูลที่เป็นความลับขั้นสุดขององค์กร อาจให้เข้าถึงได้เพียงผู้บริหารคนเดียว หรือข้อมูลบัญชี-การเงิน อาจให้สิทธินักบัญชีเข้าถึงได้ และอาจให้สิทธิ์บางคนสามารถเข้าดูแต่แก้ไขไม่ได้ หรือพนักงานทั่วไปอาจเข้าถึงข้อมูลสำคัญไม่ได้เลย ไม่ว่าจะโดยการเปิดดู คัดลอก หรือลบ

สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องทำเพื่อการจำกัดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลอย่างเหมาะสมคือ จำแนกความสำคัญของข้อมูลออกเป็นระดับต่างๆ แล้วลำดับความเกี่ยวข้องของบุคคลที่จะเข้าถึง แบบนี้จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับข้อมูลองค์กรได้อย่างครอบคลุม หากข้อมูลส่วนใดเกิดความเสียหายก็สามารถหาต้นเหตุหรือผู้กระทำได้ง่ายขึ้น

4. ป้องกันการถูกแฮกหรือโจรกรรมจากบุคคลภายนอก

ปัญหาข้อมูลองค์กรมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งจากบุคคลภายในและภายนอก ดังนั้นการจำกัดสิทธิ์ตามข้อข้างต้นจะช่วยลดภัยจากบุคคลภายใน ส่วนบุคคลภายนอกน้อง DLP ก็ยังมีการป้องกันอย่างแน่นหนา หมดปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลจากการเข้าถึงและใช้วิธีแฮกหรือโจรกรรมด้วยวิธีรีโมทระยะไกล เช่น TeamViewer, RDP หรือ RAdmin ก็ตาม

หากมีการกระทำที่ผิดปกติ หรือระบบตรวจจับได้ว่าข้อมูลที่มีการป้องกันไว้กำลังถูกคุกคาม จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ดูแลข้อมูลทราบทันที ก่อนที่จะสายเกินแก้และเป็นปัญหาบานปลายภายหลัง

5. กันภัยก่อนสายด้วยระบบแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลข้อมูล

DLP Solution ไม่เพียงแต่จัดระดับความสำคัญของข้อมูลพร้อมกับระบบการป้องกันความเสียหายเท่านั้น แต่ยังมีการวิเคราะห์ความเสี่ยง และแจ้งเตือนทุกการกระทำที่เกิดขึ้นกับข้อมูลที่ได้รับการปกป้องดูแลอยู่

โดย DLP จะมีการส่งแจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อมูลไปยังผู้ดูแลหรือผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจอนุญาตหรือระงับการกระทำเกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยของข้อมูลก่อนสายเกินแก้

ปัจจุบันภัยคุกคามมีมาได้จากหลายช่องทางโดยเฉพาะกับองค์กรที่มีบุคคลเกี่ยวข้องหลากหลายผู้คน จึงต้องยิ่งให้ความสำคัญกับการป้องกันข้อมูลและองค์กรอย่างรอบด้าน เพราะภัยต่างๆ นั้นไม่ได้มาจากทางไซเบอร์ หรือบุคคลภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนในทั้งที่กระทำโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ก็ล้วนแต่สร้างความเสียหายกับธุรกิจได้ ดังนั้นเลือกปกป้องข้อมูลองค์กรคุณให้ปลอดภัยก่อนสายเกินแก้ตั้งแต่วันนี้ด้วย DLP Solution